ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางตึกสูงและอาคารใหญ่ในเมืองทองธานี 10cc Coffee & Co. เปรียบได้กับโอเอซิสแห่งความอร่อยและบรรยากาศแสนผ่อนคลาย สำหรับใครที่จะมาร้านนี้ เพียงจำไว้ว่าชื่อ 10cc บอกที่ตั้งร้านเป็นนัยๆ เพราะอยู่ในซอย C10 ทั้งยังเป็นร้านที่ให้ความสำคัญกับทุกประสบการณ์ของการทาน แม้จะเป็นหน่วยปริมาตรเล็กน้อย อย่าง cc หรือลูกบาศก์เซนติเมตรก็ตาม
คาเฟ่และร้านอาหารในบ้านสีดำหลังคาหน้าจั่วสไตล์นอร์ดิก ซึ่งรายล้อมด้วยสวนป่าดิบชื้นเขียวขจี เกิดขึ้นจากหุ้นส่วน 4 คน ได้แก่ เชฟโบ๊ตกับเชฟเบียร์ผู้ดูแลด้านอาหารคาว เชฟเต้ยผู้ดูแลด้านเบเกอรี และคุณตาลผู้ดูแลด้านกาแฟกับเครื่องดื่ม ทุกคนต่างชื่นชอบในเรื่องการกินและมีความตั้งใจที่จะปรุงทุกอย่างด้วยสูตรโฮมเมด รวมถึง made-from-scratch ทำส่วนผสมต่างๆ ตั้งแต่ต้นด้วยตนเอง
เมนูอาหารที่นี่ค่อนข้างหลากหลายทั้งในสไตล์นานาชาติและฟิวชั่น เช่น ตัวเลือกรสชาติเผ็ดร้อนอย่างไทย หรือเมนูครีมมีละมุนละไมในสไตล์อิตาลี ขณะที่เมนูเค้กกับขนมหวานก็หน้าตาแปลกใหม่ เน้นใช้องค์ความรู้กับเทคนิคการทำขนมผสมวิทยาศาสตร์ เปลี่ยนการรับรู้แบบเดิมด้วยเทกซ์เจอร์ใหม่ แต่รสชาติกลมกล่อม
หากได้มาเยือนร้านนี้ตอนเช้าและชอบทานมื้อแรกของวันแบบจัดเต็ม ซิกเนเจอร์จานใหญ่ตอบโจทย์มากที่สุด French Beef Sandwich เป็นเมนูบรันช์ที่ใส่ใจเรื่องขนมปัง เนื้อ และซอส ทางร้านใช้เนื้อสเต็กคุณภาพดีมาทำเป็นไส้เนื้อย่างราดชีส เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดโฮมเมด ผักดองโฮมเมด และดิป 2 อย่างคือ น้ำซุปเนื้อเคี่ยวกับไวน์ขาว ซึ่งช่วยเสริมรสเข้มข้นของเนื้อและทำให้แซนวิชชุ่มฉ่ำ กับซอสเทาส์ซันส์ไอแลนด์สูตรโฮมเมด รสชาติเปรี้ยวหวาน
เพราะสามารถครีเอทสูตรขนมปังได้เอง ทางร้านจึงแก้จุดอ่อนของเมนู French Sandwich แบบออริจินัลที่ใช้บาแกต ด้วยการทำขนมปังพิเศษสูตรใหม่ ที่รวมเอาข้อดีของบาแกต ขนมปังปอนด์ และโชกุปังเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ขนมปังที่ผิวนอกกรอบ แต่เนื้อข้างในนุ่ม ไม่เหนียว และเคี้ยวง่าย เมนูนี้เลยได้ใจคนรักแซนวิชทุกวัย
เข้าสู่มื้อกลางวัน ใครๆ ก็นึกถึงอาหารจานเดียว ถ้าเป็นเมนูไทยคลาสสิคที่สุด ก็ต้อง ข้าวผัดกะเพราเนื้อดรายเอจไข่เป็ด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดข้าวผัดกะเพราที่ชูคุณค่าของเนื้อไทย ทางร้านใช้เนื้อส่วนรักบี้เกรดสเต็กซึ่งมีมันแทรกทั้งชิ้น นำไปบราย (brin) 28 วันให้เนื้อฉ่ำ ไม่เหนียว และรสชาติเข้มขึ้น หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ผัดถึงเครื่องพร้อมพริกกับใบกะเพราเท่านั้น
เสิร์ฟกับไข่ดาวไข่เป็ด ซึ่งทอดแบบขอบนอกกรอบและไข่แดงเยิ้ม ช่วยเพิ่มสีสันและความมันนัวให้เนื้อ แล้วยังมีน้ำปลาพริกที่เคี่ยวเอง ซึ่งจะทำวันต่อวันเท่านั้น เน้นความกลมกล่อมและความสดใหม่ของพริกกับกระเทียมในน้ำปลา
ไปต่อกับอาหารสำหรับมื้อหนักๆ กับจานสเต็กอย่าง Grilled Dry Aged Striploin Steak สตริปลอยน์เนื้อวากิวเกรดพรีเมียม นำเข้าจากออสเตรเลีย นำมาดรายเอจและย่างอย่างดีแบบมีเดียมแรร์ เสิร์ฟพร้อมซอส 3 แบบ 3 สไตล์ ทั้งซอสพริกไทยดำแบบดั้งเดิม ซอสทรัฟเฟิล และซอสรสชาติไทยๆ อย่างแจ่ว มีเครื่องเคียงเป็นมันอบกับซาวร์ครีมหมักโฮมเมดด้วย
แน่นอนว่าจานนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่คุณภาพและวิธีการย่างเนื้อ ซึ่งทำให้เนื้อมีกลิ่นหอมชัดเจนและรสชาติเข้มข้น แต่ความพิเศษอีกอย่างคือแจ่ว ซึ่งทางร้านตีโจทย์ใหม่ เปลี่ยนจากน้ำจิ้มที่ดูใสให้มีเครื่องเยอะ เช่น ซอยพริกกับหอมแดงให้ใหญ่กว่าเดิมเพื่อเพิ่มเทกซ์เจอร์ชวนเคี้ยว ทั้งยังเติมน้ำมะนาวสดมากกว่าปกติ (มีความใกล้เคียงน้ำจิ้มซีฟู้ด) เพื่อเพิ่มความแซ่บให้เนื้อ
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวาน Mushroom Forest เห็ดน้อยในป่า ซิกเนเจอร์สุดสร้างสรรค์ซึ่งคิดค้นใหม่ให้เข้ากับร้าน โดยจะเสิร์ฟมาในแก้วเท่านั้น หน้าตาน่ารักไม่พอ ยังอัดแน่นด้วยเทกซ์เจอร์กับรสชาติหลากมิติ เชฟเต้ยเบลนด์ช็อกโกแลต 2 ชนิดมาทำมูสเนื้อเนียนนุ่มก้นแก้ว ซึ่งเปรียบได้กับผืนดิน
ชั้นถัดขึ้นมาเป็นครัมเบิลอัลมอนด์ และเนื้อเค้กชาเขียวซึ่งนำมาปนเป็นหญ้ากับมอส ตกแต่งด้วยเห็ดเมอร์แรงก์สีขาว กลิ่นหอมและหวานน้อย บอกเลยว่าเมนูนี้ใช้เวลาราวๆ 3 วันในการทำแต่ละส่วนประกอบ พิถีพิถันจนกลายป็นรสชาติที่ใครต่างอยากบอกต่อ
ถ้าได้มาทำธุระแถวเมืองทองธานี ไว้ควรพลาดร้านนี้อย่างยิ่ง เป็น hidden gem ที่มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แถมยังสนุกกับการกินท่ามกลางธรรมชาติซึ่งหาได้ยากในเมืองหลวง
พิกัดร้าน
- 10cc Coffee & Co.
- เมืองทองธานี ซอย C10 ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี
- อังคาร-อาทิตย์ 08.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
- 084-269-2698
- มีลานจอดรถ