Raydus Café & Bar (เรดัส) คาเฟ่และบาร์ไวป์ดีที่เหมาะแก่การแวะเวียนมานั่งจิบกาแฟแก้วโปรดระหว่างวัน และคอมพลีทค่ำคืนด้วยค็อกเทลสูตรพิเศษ ภายใต้โรงแรม Siam Mandarina Hotel
Raydus ซ่อนตัวอยู่ภายใน Siam Mandarina Hotel โดย คุณเปเป้ อรุณานนท์ชัย ที่ตั้งใจออกแบบให้ Raydus เป็นพื้นที่ที่เบลนด์ความเป็นศาสตร์และศิลป์ของเครื่องดื่มเข้าไว้ด้วยกัน ในสไตล์ Creative Beverage Space เน้นความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่เมนู แรงบันดาลใจในแต่ละแก้ว รสชาติ วัตถุดิบ และประสบการณ์ของผู้ดื่ม จากกาแฟที่ชงด้วยความแม่นยำ ตลอดจนค็อกเทลที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ แถมยังเฟรนด์ลี่สำหรับคนและสัตว์ เพราะเป็น Pet-Friendly Space คอมมูนิตี้สำหรับคนรักสัตว์ ผ่านสวนและพื้นที่สีเขียวภายนอกร้าน ส่วนภายในร้านยังพร้อมเป็นพื้นที่จัดงานที่สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์ นิทรรศการศิลปะ และงานพิเศษร่วมกับศิลปินหรือองค์กรภายนอกตลอดทั้งปี
COFFEE TIME
Raydus เริ่มเสิร์ฟเครื่องดื่มแก้วแรกระหว่างวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ด้วยเมนูหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ กาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ด้วยเมล็ดกาแฟเบลนด์เฉพาะจาก Raydus ที่คัดสรรและร่วมสร้างกับโรงคั่วขนาดเล็ก มอบรสสัมผัสที่บาลานซ์ พร้อมที่จะเปลี่ยนวันธรรมดาให้กลายเป็นช่วงเวลาดี ๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ ทั้งม็อคเทล สมูทตี้ และน้ำผลไม้ ซึ่งออกแบบอย่างมีคอนเซปต์
ชวนเริ่มต้นวันกันด้วย Americano (120 บาท) เมนูธรรมดาแสนเรียบง่าย แต่พิเศษด้วยเมล็ดกาแฟคุณภาพสูงที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิเศษ และเนื่องจากกาแฟมีการเปลี่ยนแปลงในทุกวัน จึงมีการ set up shot ที่ perfect ในทุกเช้าและระหว่างวันเพื่อให้กาแฟทุกแก้วสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ ตามด้วย Cold Matcha (160 บาท) เมนูสุดฮิตที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความละเมียดละไม ด้วยมัทฉะคุณภาพสูงจากเมือง Uji ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ได้รสเข้มข้น กลมกล่อม และหอมละมุนในทุกแก้ว สำหรับสายชาไทยต้องไม่พลาดกับ Thai Tea(140 บาท) ชาไทยสูตรพิเศษที่คัดสรรใบชาคุณภาพดีจากแหล่งปลูกในไทย ให้กลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมอย่างมีเอกลักษณ์ ชงสดทุกแก้ว เพื่อคงรสสัมผัสแบบต้นตำรับที่ลงตัวเสมอ
NIGHT TIME
จากคาเฟ่กาแฟในตอนกลางวันเทิร์นดาวน์กลายเป็นค็อกเทลบาร์พร้อมมอบประสบการณ์ของค่ำคืนอันน่าประทับใจที่ Raydus ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น. จากความหลงใหลและจริงจังในกาแฟ สู่แนวคิด Cocktail – Wheel of Moments 9 เมนูค็อกเทลที่นำแนวคิด Coffee Taster’s Flavor Wheel (วงล้อกลิ่นรส สำหรับนักชิมกาแฟ) มาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ซิกเนเจอร์ค็อกเทล ที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ รสสัมผัส และความซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ในค็อกเทลแต่ละแก้ว ทุกเมนูล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โดยเมนูที่ทางร้านอยากแนะนำเป็นพิเศษคือ Toothpaste (480 บาท) เพราะเป็นตัวแทนของหมวด Others ซึ่งเป็นหมวดที่ตีความได้ยากและไม่ค่อยพบในเครื่องดื่มทั่วไป Toothpaste มีแนวคิดชัดเจนในการจำลองรสชาติและรูปลักษณ์ให้เหมือนยาสีฟัน ทั้งสีชมพู–ฟ้า ฟองด้านบน และประกายกลิตเตอร์ จึงกลายเป็นหนึ่งในเมนูที่โดดเด่นที่สุดในคอลเลกชันนี้
อีกหนึ่งแก้วที่ไม่ควรพลาดคือ 99 Problems (520 บาท) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากหมวด Floral โดดเด่นด้วยโฟมดอกไม้สีเขียวและการตกแต่งด้วยดอกไม้ทานได้ที่ปกคลุมจนเต็มขอบแก้ว เสมือนยกสวนดอกไม้ขนาดย่อมมาเสิร์ฟในรูปของเครื่องดื่มสุดประณีต
PAINTING & COCKTAIL PAIRING EXHIBITION
ตลอดเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2568 จะเป็นอย่างไรเมื่อ ค็อกเทลสูตรพิเศษ ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะสำหรับงานศิลปะจากนิทรรศการเดี่ยวของศิลปินนักศึกษาจาก คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะ และการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังที่นำมาจัดแสดง ครั้งแรกของการเปลี่ยนพื้นที่ Raydus ให้กลายเป็นแกลเลอรีส่วนตัว แสดงผลงานภาพที่ถูกจับคู่กับค็อกเทลสูตรพิเศษ พร้อมมอบประสบการณ์ทางวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด “Weaving the Future” พื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินรุ่นใหม่ของไทยได้เปล่งประกาย ผ่านการออกแบบที่สะท้อนอารมณ์ สีสัน และเรื่องราวของผลงานนั้น ๆ เปิดประสบการณ์ระหว่าง “ภาพ” และ “รสชาติ” ให้กับทุกคน
ประเดิมครั้งแรกวันที่ 9 – 25 พฤษภาคม 2568 พบกับนิทรรศการเดี่ยวของ ภูสิทธิ์พระแท่น ในคอนเซปต์ Heat Heaven ผลงานที่หยิบภาพจิตรกรรมโบราณมาดัดแปลงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ถ่ายทอดโลกแห่งสวรรค์ที่เคยสงบนิ่งให้กลายเป็นพลังที่โลดเต้น เต็มไปด้วยความร้อนแรงและการเคลื่อนไหวของยุคปัจจุบัน โดย Raydus ได้ออกแบบ 6 SPECIAL COCKTAILS ค็อกเทลแต่ละแก้วให้สอดรับกับผลงานอย่างกลมกลืน ทั้งในด้านรสชาติและอารมณ์ สร้างประสบการณ์ใหม่ที่ทั้ง มองได้และดื่มได้ ไปพร้อมกัน